พันธุ์ข้าว กข 29 ได้จากการผสม 3 ทางระหว่างลูกผสมชั่วที่ 1 ของพันธุ์ข้าวสุพรรณบุรี 60 และสายพันธุ์
IR29692-99-3-2-1 กับสายพันธุ์ IR11418-19-2-3 ที่สถานีทดลองข้าวชัยนาท ในปี 2532 ปลูกลูกผสมชั่วที่ 1
คัดเลือกพันธุ์ ศึกษาพันธุ์และเปรียบเทียบผลผลิตภายในสถานีที่ศูนย์วิจัยข้าวชัยนาท ในปี พ.ศ. 2533 - 2541
จากนั้นนำเข้าเปรียบเทียบผลผลิตระหว่างสถานีที่ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ศูนย์วิจัยข้าวลพบุรี และศูนย์วิจัยข้าวชัยนาท
ในฤดูนาปี พ.ศ. 2541-ฤดูนาปี พ.ศ. 2547 นำเข้าเปรียบเทียบผลผลิตในนาราษฎร์ในแปลงเกษตรกรจังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี สิงห์บุรี และชัยนาท ในฤดูนาปี พ.ศ. 2542 ถึง ฤดูนาปี พ.ศ. 2547 นำเข้าทดสอบเสถียรภาพผลผลิต
ที่ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก แพร่ อุบลราชธานี สกลนคร สุรินทร์ ปทุมธานี สุพรรณบุรี พัทลุง คลองหลวง ราชบุรี ชัยนาท ลพบุรี และฉะเชิงเทรา คัดเลือกเข้าทดสอบผลผลิตในนาเกษตรกร ในจังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ พิจิตร สุโขทัย ชัยนาท และสิงห์บุรี ในฤดูนาปรัง พ.ศ. 2544 ถึง ฤดูนาปรัง พ.ศ. 2548 คณะกรรมการมีมติให้เป็นพันธุ์รับรองเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2550
ลักษณะประจำพันธุ์
เป็นข้าวเจ้า ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุ 103 วัน ในฤดูนาปี และ 99 วัน ในฤดูนาปรังเมื่อปลูกโดยหว่านน้ำตม กอตั้ง สูงประมาณ 104 เซนติเมตร ใบเขียวเข้ม ใบธงตั้งตรง รวงแน่นปานกลาง คอรวงยาว ต้นแข็งไม่ล้มง่าย ข้าวกล้องรูปร่างเรียว ยาว 7.34 มิลลิเมตร กว้าง 2.23 มิลลิเมตร หนา 1.80 มิลลิเมตร คุณภาพทางเคมีเป็นข้าวอมิโลสสูง (26.9 – 29.4 %) ข้าวเมื่อหุงสุกมีลักษณะร่วน แป้งสีขาวนวล ไม่หอม
ลักษณะเด่น
- อายุสั้น มีอายุวันเก็บเกี่ยว 99 วัน ในฤดูนาปรัง และ 103 วัน ในฤดูนาปี สั้นกว่าพันธุ์ชัยนาท 1 (104 และ106 วัน) สุพรรณบุรี 1 (108 และ 110 วัน) และพิษณุโลก 2 (105 และ 106 วัน)
- ผลผลิตสูง ให้ผลผลิตเฉลี่ย 876 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์สุพรรณบุรี 1 (824 กิโลกรัมต่อไร่) ชัยนาท 1 (744 กิโลกรัมต่อไร่) 6 และ 18 เปอร์เซ็นต์
ค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และโรคขอบใบแห้ง
- คุณภาพเมล็ดทางกายภาพ เป็นข้าวเจ้า เมล็ดเรียวยาว ขนาดข้าวกล้อง 7.34 x 2.23 x 1.80 มิลลิเมตร ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีมาก สามารถสีเป็นข้าวขาว 100 เปอร์เซ็นต์
- ธาตุเหล็กสูง มีปริมาณธาตุเหล็กในข้าวกล้องสูงถึง 15.7 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม ส่วนในข้าวสารพบปริมาณธาตุเหล็ก 6.7 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม
พื้นที่แนะนำ
เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาชลประทาน ภาคเหนือตอนล่างที่ต้องการข้าวอายุสั้นเพื่อปลูกปีละ 3 ครั้ง โดยเริ่มปลูกในเดือนสิงหาคม ธันวาคม และเมษายน หรือสำหรับปลูกหลังถูกน้ำท่วมในฤดูฝนและสามารถปลูกและเก็บเกี่ยวได้ 2 ครั้งในฤดูนาปรังก่อนถูกน้ำท่วม
ข้อควรระวัง
ไม่ควรปลูกในช่วงกลางเดือนกันยายน ถึง ปลายพฤศจิกายน ซึ่งมีอากาศเย็นเพราะจะมีเมล็ดลีบมาก ผลผลิตต่ำ
อ่อนแอต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ในเขตจังหวัดนครปฐม ปทุมธานี ราชบุรี และฉะเชิงเทรา